
เมื่อเราผ่อนบ้านมาได้สักพัก หลายคนอาจได้ยินคำว่า “รีไฟแนนซ์บ้าน” อยู่บ่อย ๆ แล้วมันคืออะไร? จำเป็นแค่ไหน? และทำไมใคร ๆ ถึงบอกว่ามันช่วยประหยัดเงินได้ “หลักแสน”?
บทความนี้จะพาไปเข้าใจแบบละเอียด พร้อม ตัวอย่างเปรียบเทียบชัด ๆ ให้มือใหม่ก็เข้าใจได้ง่าย
รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร?
รีไฟแนนซ์ (Refinance) คือ การเปลี่ยนสัญญากู้บ้านจากธนาคารเดิม ไปยังธนาคารใหม่ที่ให้ ดอกเบี้ยถูกกว่า
เปรียบง่าย ๆ ก็เหมือนการย้ายค่ายมือถือ เพื่อโปรที่ดีกว่า!
📌 เป้าหมายของการรีไฟแนนซ์:
ลดดอกเบี้ย = ลดเงินผ่อนรายเดือน หรือระยะเวลาผ่อน = ประหยัดเงินได้มหาศาล
รีไฟแนนซ์ต่างจากการรีเทนชั่นยังไง?
- รีไฟแนนซ์: ย้ายไปธนาคารใหม่
- รีเทนชั่น: เจรจากับธนาคารเดิม ขออัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ดีกว่า
🔁 ถ้าอยากลดดอกเบี้ยแบบไม่ยุ่งย้ายเอกสารมาก รีเทนชั่นก็เป็นตัวเลือก
แต่ถ้าธนาคารเดิมให้เรทไม่ดี รีไฟแนนซ์ก็คุ้มกว่าในระยะยาว
แล้วควรรีไฟแนนซ์เมื่อไหร่?
✅ ช่วงที่เหมาะที่สุด: หลังผ่อนบ้านมาแล้ว 3 ปี
เพราะช่วง 3 ปีแรก มักเป็น “ดอกเบี้ยโปรโมชั่น” ที่ถูกมาก
แต่หลังจากนั้นจะ “ลอยตัว” ขึ้นไปสูงแบบที่หลายคนไม่รู้ตัวเลยว่า
“กำลังจ่ายดอกเบี้ยเกินจำเป็นอยู่ทุกเดือน!”
ตัวอย่างเปรียบเทียบ: ก่อน – หลังรีไฟแนนซ์
สมมุติ:
- ยอดกู้บ้าน: 2,000,000 บาท
- ระยะเวลา: 30 ปี
- ดอกเบี้ยลอยตัวหลัง 3 ปีแรก = 6.5%
- ดอกเบี้ยหลังรีไฟแนนซ์ = 3.5%
รายการ | ก่อนรีไฟแนนซ์ | หลังรีไฟแนนซ์ |
ดอกเบี้ย | 6.5% | 3.5% |
ผ่อนต่อเดือน | ~12,640 บาท | ~9,000 บาท |
ประหยัดต่อเดือน | – | 3,600 บาท |
ประหยัดใน 1 ปี | – | 43,200 บาท |
ประหยัดใน 5 ปี | – | 216,000 บาท |
💥 จะเห็นว่าแค่ลดดอกเบี้ยลง 3% ก็ช่วยประหยัด “หลักแสน” ได้ไม่ยากเลย!
ค่าใช้จ่ายตอนรีไฟแนนซ์มีไหม?
มีบ้างเล็กน้อย เช่น
- ค่าจดจำนองใหม่ (0.01-1% ของยอดกู้)
- ค่าประเมินหลักทรัพย์
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของธนาคารใหม่
แต่โดยรวมมักไม่เกิน 20,000–30,000 บาท และคุ้มมากเมื่อเทียบกับเงินที่ประหยัดได้หลักแสน
สรุป: รีไฟแนนซ์ดีไหม?
หากคุณผ่อนบ้านมาแล้ว 3 ปี และกำลังผ่อนดอกเบี้ยในเรทลอยตัว
การรีไฟแนนซ์คือทางเลือกที่ชาญฉลาด ที่ช่วยประหยัดได้มากกว่าที่คิด
เพียงแค่เปลี่ยนธนาคาร คุณอาจเซฟเงินไว้ใช้จ่ายอื่น ๆ ได้อีกเพียบ!